วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

อาชีพในโลกออนไลน์ นั่งทำงานที่บ้านได้ โดยไม่ต้องขายตรง!! ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษา






วันนี้อยากจะมานำเสนอบทความดีๆ ที่คิดว่าใครหลายๆคนน่าจะสนใจและอยากรู้รายละเอียดกันครับ สำหรับอาชีพในโลกออนไลน์นั้นมีอยู่จริงนะครับ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ และคนที่สำเร็จจากอาชีพเหล่านี้ก็มีอยู่จริงเช่นกัน สำหรับ 9 อาชีพที่ผมจะมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักวันนี้นั้นยังไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะครับ แต่ว่ามันทำเงินได้แน่นอน
อาชีพเหล่านี้จะเหมาะมากๆครับ สำหรับใครที่ต้องการหารายได้อยู่ที่บ้าน หรือต้องการทำเป็นอาชีพเสริมควบคู่กับงานประจำที่ทำอยู่แล้วก็ได้ และถึงแม้จะเป็นนักศึกษาก็ยังสามารถทำได้เช่นกัน โดยรายได้ที่จะได้รับนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน ผมไม่สามารถบอกได้ว่าอาชีพทั้งหมดที่ผมกำลังจะพูดถึงนั้น อาชีพไหนทำเงินได้เยอะสุด แต่อย่างหนึ่งที่ผมมั่นใจคือ มันจะทำเงินให้เราได้แน่นอน หากเราตั้งใจทำมัน และไม่หยุดที่จะเรียนรู้ครับ
11063612_10204931546902003_1459732185566236197_n

1.Google
Google ในมุมมองของใครหลายๆคน คงเป็นแค่ Search Engine หรือเครื่องมือในการค้นหาคำที่อยากรู้เท่านั้น เพราะไม่ว่าจะพิมพ์อะไรไปก็ตามอากู๋คนนี้ตอบเราได้หมดทุกอย่างเลย นอกจากนั้นแล้ว Google ยังเคยได้รับการโหวตจากเหล่าพนักงานในสหรัฐอเมริกาด้วยว่าเป็นบริษัทที่น่าทำงานด้วยที่สุดแห่งหนึ่ง นั่นก็เพราะบริษัทที่ดูใหญ่โตสวยงาม รวมไปถึงค่าแรง และสวัสดิการที่ Google มีให้กับพนักงานนั้นสูงมากไงครับ สงสัยไหมครับว่าเจ้าเว็บ Search Engine นี้ ทำไมถึงมีบริษัทที่สวยมากๆ และ มีเงินจ่ายพนักงานได้เยอะขนาดนั้น ?
Google-Search
ด้วย Google เป็นเว็บ Search Engine อันดับ 1 ตอนนี้นั่นแหละครับ Google จึงเปิดแคมเปญที่มีชื่อว่า Google Adwords ขึ้นมา โดย Google Adwords นั้นจะอนุญาติให้เราสามารถทำโฆษณาบนพื้นที่ของ Google พูดง่ายๆคือสามารถกำหนดได้ว่า เมื่อมีคนค้าหาคำไหน เว็บไซต์ของเราจะขึ้นมาอยู่บนหน้าแรกของ Google ได้นั่นเองครับ ซึ่งนี่จะเป็นรายได้หลักให้ทางหนึ่งของ Google ครับ แล้วเราจะหาเงินจาก Google ยังไง ?
ads111ense
นอกจาก Google Adwords แล้วยังมีแคมเปญที่ชื่อว่า Google Adsense ด้วยครับ โดยเจ้าแคมเปญนี้จะอนุญาติให้เหล่าผู้ที่มีเว็บไซต์หรือบล็อกเป็นของตัวเอง สมัครเป็นผู้เผยแพร่โฆษณาให้กับ Google โดยใช้พื้นที่บนเว็บไซต์นั่นเอง โดยรายได้ที่ Google นำมาจ่ายให้นั้นจะมาจากผู้ที่จ่ายค่าโฆษณาให้กับ Google Adwords ครับ ส่วนรายได้ที่เจ้าของเว็บไซต์จะได้นั้นจะมีทั้งแบบการแสดงโฆษณาครบ 1000 ครั้ง หรือการกดคลิกที่โฆษณา โดยแต่ละคลิกนั้นจะมีรายได้ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง บางเว็บไซต์อาจมีรายได้สูงถึงเดือนละ 1000$ หรือมากกว่านั้น ส่วนบางเว็บไซต์ก็อาจได้เดือนละไม่ถึง 10$ ก็มีครับ
สำหรับใครที่สนใจอยากทราบวิธีสมัคร หรือรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปที่ GOOGLE ADSENSE ได้เลยครับ

2.Youtube
จะเห็นได้ว่าเดี๋ยวนี้เวลาที่เราเข้าไปรับชมคลิป ดูคลิปต่างๆใน Youtube จะเจอโฆษณาเยอะมากๆ ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาที่ให้เรากดข้ามหรือ โฆษณาที่ขึ้นมารบกวนสายตาเราเวลาที่ดูคลิปก็ตาม โฆษณาเหล่านั้นแหละครับที่เป็นการหารายได้จากการทำคลิปบน Youtube
222222color
คงต้องบอกก่อนว่า Youtube นั้นเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้บริการในการรับชมวิดีโออันดับ 1 ของโลกในตอนนี้ ซึ่งจริงๆแล้วเจ้าของYoutube ก็เป็นคนเดียวกับ Google นั่นเอง เมื่อไม่นานนี้ Youtube เลยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีช่องหรือ Channel บน Youtube ในการหารายได้เพิ่มขึ้นอีกช่องทางหนึ่งใช้ชื่อว่า Youtube Partner โดยจะเป็นการอนุญาติให้โฆษณาปรากฎขึ้นบนวิดีโอของเจ้าของ Channel นั่นเอง โดยรายได้นั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนการรับชม หรือการกดคลิกบนโฆษณาเช่นกันครับ
blakeblastblog
อันที่จริงก่อนหน้านี้ Youtube ก็มีการให้รางวัลในเรื่องของยอดวิว และคนติดตามให้กับเจ้าของ Channel อยู่แล้วครับ หากสามารถมีจำนวนตามเกณฑ์ที่ทาง Youtube กำหนด แต่หลังจากการเปิดแคมเปญการหารายได้แบบ Youtube Partner นี้ ทำให้เหล่าเจ้าของ Channel ทั้งหลายมีรายได้เป็นกอบเป็นกำกันเลยทีเดียว
สำหรับใครที่มีความสามารถหรือไอดเดียในการทำวิดีโอเจ๋งก็อย่ารอช้าครับ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่YOUTUBE PARTNER ได้เลย

3.ขายของออนไลน์   sale product click
สำหรับอาชีพนี้คงเป็นที่คุ้นหน้า คุ้นตาของสังคมไทยสมัยนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ เพราะการขายของนั้นเป็นที่แน่ๆว่าต้องมีรายได้เกิดขึ้นมาแน่นอน สำหรับการขายของออนไลน์ ก็มีมากมายหลายวิธีเลย ไม่ว่าจะเป็นการขายผ่าน สื่อสังคมออนไลน์ Social Network อย่าง Facebook Instagram หรือขายผ่านเว็บไซต์ต่างๆอย่าง WeLoveShopping INWshop รวมทั้ง eBay ด้วย
ebay_logo
หากใครที่สนใจอยากขายของบน Facebook ผมแนะนำว่าควรจะเปิดแฟนเพจขึ้นมาครับ เพราะเราจะสามารถโปรโมทสินค้าผ่านทาง Facebok Adsได้ แตกต่างจากการโพสหน้าส่วนตัว เพราะอาจจะมีแค่เพื่อนเราเท่านั้นที่เห็นครับ ส่วนสำหรับการค้าขายบน eBay ก็อาจจำเป็นต้องมีความรู้เรื่องภาษาเข้ามาช่วยนิดหน่อยครับ ตรงนี้อาจใช้ Google Translate เข้ามาช่วยได้บ้างบางกรณีในการพูดคุยกับลูกค้า
สำหรับการขายของออนไลน์นั้นเป็นทางเลือกที่เหมาะมากๆสำหรับทุกๆคน แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำแล้วสำเร็จนะครับ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับทั้งความสามารถ โอกาส และสินค้า ที่นำมาขายด้วย แต่สิ่งที่สำคัญสุดๆเลยคือความอดทนครับ


Today I would like to present a good article. I think many people will be interested and know the details offline. For a career in the online world is offline. Do not believe me And for those of you who have succeeded in these careers, there are actually 9 for me. The 9th job I'm going to recommend to everyone today is not all. But it certainly made money.

These professions are very suitable offline. For those who want to earn money at home. I want to make a career as a supplement to the work that is already done. And even a student can do it as well. The income will be. It depends on the ability of each person. I can not say that all the careers I am talking about. I have a lot of money. But one thing I'm sure is. It will certainly make us money. If we intend to do it. And do not stop to learn it.




1.Google

Google, in the view of many people, is just a search engine or search tool to know only. I do not know what to do, but this guy has answered me all. Google has also been voted by employees in the United States as one of the best companies to work with. That's because the company looks great. To pay And the benefits that Google provides to employees is very high. Why do you have a Search Engine? Why are there so many pretty companies that pay so much money?

Google-Search

Google is the number 1 search engine now, that is Google has launched a campaign called Google Adwords. Google Adwords will allow us to advertise on Google's territory. When people find a word. Our website will be on the first page of Google there. This will be a major revenue for Google. Then how do we make money from Google?



In addition to Google Adwords, there is a campaign called Google Adsense. The campaign will allow people who have their own website or blog. Applying to be a publisher to Google using the space on the site itself, the revenue that Google paid to it will come from those who pay for Google Adwords ads, the revenue that the site owner will have both. 1000 ad impressions or clicks on ads. Each click will have a different income. It depends on many factors. Some websites may earn as much as $ 1000 a month or more. Some sites may have less than $ 10 a month.

For those who want to know how to apply. For more information, visit GOOGLE ADSENSE.



2.Youtube

We see that now that we go to the clip. View clips on Youtube will see a lot of ads. Whether it's an ad that lets us skip it or The ads that interfere with our eyes when viewing the clips. These are the ads that make money from making clips on Youtube.



I must say that Youtube is the site that has users to watch the world's # 1 video right now. Actually, the owner of Youtube. YouTube is the only one Youtube recently allowed the channel or channel on Youtube to earn more. Another channel named Youtube Partner will allow ads to appear on. Video of the owner of the Channel itself, the revenue will depend on the number of views. Or click on ads as well.
4.Dropships
นอกจากการค้าขายออนไลน์แล้ว Dropships ก็ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีไม่แพ้กันเลยครับ เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มีทุนในการเริ่มต้นค้าขายออนไลน์ นอกจากนั้นข้อดีของมันคือการที่เราไม่ต้องสต็อกของเอง ไม่ต้องเสียเวลาหรือค่าเดินทางในการไปส่งของด้วย
logo-dropship
โดยการทำ Dropship นั้นคือการที่เรานำสินค้าของร้านค้าออนไลน์มาประกาศขายในร้านค้าของเราเองในราคาที่เราตั้งเองได้ จากนั้นทางร้านค้าที่เป็นผู้สต๊อกสินค้าจะจัดส่งสินค้าให้ในนามของเรา ยกตัวอย่างเช่น ร้านฟุ้งฟิ้งขายกระเป๋าใบละ 200 บาท ทางร้านจะขายให้ผู้ที่ทำ Dropship กับทางร้านในราคา 150 บาท
เราก็แค่เปิดแฟนเพจหรือเปิดเว็บขึ้นมาเพื่อให้เป็นหน้าร้านในการโปรโมทสินค้า เราอาจจะขายกระเป๋าใบนี้ราคา 200-250 บาท เมื่อมีผู้สนใจติดต่อเข้ามาซื้อ เราก็รับเงิน และสั่งสินค้าไปที่ร้านฟุ้งฟิ้งโดยโอนเงินให้ 150 บาทตามที่ตกลงกันไว้ ทางร้านก็จะจัดส่งสินค้าให้ตามที่อยู่ของลูกค้า ในนามของร้านเรา ส่วนเรากจะได้กำไรจากส่วนต่างที่เกิดขึ้นนี้ครับ
ซึ่งก็จะได้ประโยชน์กันไปทั้ง 2 ฝ่ายแบบ Win-Win ทางร้านที่มีสินค้าก็เพิ่มยอดขาย ส่วนทางผู้ที่ทำ Dropship จะได้กำไร และไม่ต้องลงทุน รวมถึงส่งของด้วย

สำหรับการทำ Affiliate อาจจะเป็นคำที่ใหม่สำหรับคนไทย แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่แพ้การทำ Dropship เช่นกัน โดยผมจะขออธิบายให้เข้าใจกันคร่าวๆก่อนนะครับว่า Affiliate คืออะไร
Affliate คือการที่เราโฆษณา โปรโมทสินค้าของร้านค้า ด้วยวิธีการต่างๆ จากนั้นส่งลูกค้าไปในเว็บไซต์หลักของผู้ขาย หากเกิดการซื้อขายขึ้นจะทำให้เราได้ค่าคอมมิชชั่นจากทางเจ้าของสินค้า โดยจะมีการแจ้งไว้อย่างชัดเจนแล้วว่าสินค้าชิ้นนั้นๆจะได้ค่าคอมมิชชั่นคิดเป็นกี่ % ของราคาสินค้า
amazon_logo_RGB
ส่วนใหญ่แล้วที่ได้รับความนิยมมากๆในการทำ Affiliate คือ สินค้าจาก Amazon และ Clickbank โดยทั้ง 2 เว็บไซต์นี้จะแตกต่างกันที่ตัวสินค้า เพราะทาง Amazon นั้นจะเป็นสินค้าทั่วๆไปแบบจับต้องได้ ส่วนทาง Clickbank จะเป็นสินค้าจำพวก Digital Product ครับ
11111ds
แล้วจะส่งคนไปที่เว็บไซต์ที่ขายสินค้าอย่างไร ? แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราขายได้ และจะได้รับเงิน ?
วิธีการนั้นจะเป็นการที่เราสมัครเป็นสมาชิก Affiliate จากเว็บนั้นๆก่อน ขอยกตัวอย่างเป็น Amazon นะครับ จากนั้นเราก็ต้องเข้าไปหาว่าเราจะขายสินค้าตัวไหน เมื่อได้สินค้าที่ต้องการแล้ว เราก็จะได้ลิ้งค์ในการโปรโมทสินค้าตัวนั้นๆมาด้วย จากนั้นเราอาจจะเขียนบล็อก หรือ เว็บเพจ หรือทำการเขียนรีวิวก็ได้ครับ จากนั้นก็ใส่ลิ้งค์(แบบนี้)ในการซื้อสินค้าไว้ในบทความ เมื่อผู้สนใจอ่านแล้วคลิกไปที่ลิ้งค์นั้น แล้วเกิดการซื้อสินค้าชิ้นนั้นขึ้นก็จะทำให้เรามีรายได้เป็นส่วนแบ่งค่าคอมมิชชั่นนั่นเอง โดยจะมีระบบให้เราตรวจสอบว่ามีคนคลิกที่ลิ้งค์นั้นๆของเรากี่ครั้ง และได้ซื้อสินค้าหรือไม่ครับ
งานนี้เรียกว่าหาเงินในอากาศกันเลยครับสำหรับการทำ Affiliate และมีหลายคนที่ทำสำเร็จ รวมถึงหลายๆคนที่ไม่สำเร็จเช่นกัน สำหรับใครที่สนใจก็สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตามลิ้งค์ที่ให้ไว้นี้ได้เลยครับCLICKBANK / AMAZON
6. ออกแบบ Sticker Line ขาย
Line ถือเป็น Messenger App ที่ได้รับความนิยมมากๆโดยเฉพาะในบ้านเรา ซึ่งตัวผมเองนั้นมองว่า Sticker เป็นส่วนสำคัญมากๆที่ทำให้เจ้าแอพ Line นี้โดดเด่นมากๆ เพราะมันทำให้การแชทหรือพูดคุยของเรามันดูมีอารมณ์ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้งมากขึ้น อย่างเห็นได้ชัดครับ
55555
แต่ก็มีบางครั้งใช่ไหมครับ ที่เราไม่สามารถหาสติ๊กเกอร์ที่ตรงตามความรู้สึกของเราได้ ทาง Line คงเล็งเห็นตรงจุดนี้ด้วย จึงเปิดโอกาสให้คนทั่วไปสามารถออกแบบสติ๊กเกอร์ลงมาวางขายเองได้เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมาไม่นานนี้เอง โดยใช้ชื่อว่า Line Creator Market
66666
โดยราคาขายของสติ๊กเกอร์ที่เราออกแบบเองนั้นจะอยู่ที่ 30 บาทและทาง Line จะแบ่งกำไรไป 50% ของราคาขายหรือ พูดง่ายๆคือต่อการดาวน์โหลด 1 ครั้งเราจะได้เงิน 15 บาท หลังจากนี้ก็ต้องมาดูกันว่าจะมีคนดาวน์โหลดไปใช้มากน้อยแค่ไหนครับ ที่สำคัญเป็นเหมือน Passive Income นะครับ เพราะหลังจากเราออกแบบและวางขายแล้ว ที่เหลือก็รอให้มีคนเข้ามาดาวน์โหลดนั่นเอง
สำหรับผู้ที่มีความสามารถในการออกแบบ ยังสามารถออกแบบแล้วขายเป็นงานๆให้กับผู้ที่สนใจ หรือสั่งทำพิเศษได้ด้วยนะครับ ซึ่งจะได้รายได้เป็นเงินก้อนแทน ส่วนผู้ซื้อนั้นจะไปวางขายต่อเอง ได้มากได้น้อยตรงจุดนี้ เราไม่เกี่ยวแล้วครับ
สำหรับผู้ที่สนใจหรือต้องการสมัครก็เข้าไปตามลิ้งค์นี้ได้เลยครับผม LINE CREATOR MARKET
7.สร้าง Fanpage 
สำหรับงานนี้อาจจะมีหลายๆท่านที่นึกไม่ถึงว่า กลายเป็นรายได้ยังไงนะครับ การสร้าง Fanpage นั้นอาจจะยังไม่มีรายได้เข้ามาในตอนแรก แต่หากว่า Fanpage เป็นที่นิยมแล้วมันก็จะมีมูลค่าขึ้นมา ขึ้นอยู่กับจำนวนคนไลค์ของเพจ
facebook600
โดยการหารายได้วิธีนี้จะเป็นการรับโฆษณาซะส่วนใหญ่ ราคาต่อครั้งนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนผู้กดถูกใจเพจ มากน้อยก็ว่าตามกันไป เพราะหากมีการโพสโฆษณาหรือลิ้งค์ต่างๆลงไปในเพจแล้ว จะมีผู้ที่เห็นโฆษณา รวมถึงเป็นไปได้แน่ๆว่าจะกดเข้าไปดูโฆษณาครับ อย่างไรก็ตามในการรับโฆษณาประเภทสินค้ามาโพสนั้น ก็ควรจะเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเพจด้วย มิเช่นนั้นจะทำให้เพจเสียความเป็นตัวตนของเพจนั้นไปเลย หากเห็นแก่รายได้อย่างเดียว ซึ่งส่งผลกระทบต่อ
นอกจากการรับโพสโฆษณาหรือลิ้งค์ต่างๆแล้ว ยังมีการซื้อขายเพจอีกด้วยนะครับ สำหรับแอดมินที่ไม่มีเวลาหรือต้องการเงินก้อน ก็อาจใช้วิธีนี้ในการหารายได้เช่นกัน ซึ่งราคาก็ถือว่าค่อนข้างน่าพอใจทีเดียว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแฟนเพจ และจำนวนคนที่กดถูกใจครับ
8.ขาย E-Book
นอกจากการเขียนหนังสือขายแบบธรรมดาแล้ว ยังสามารถเขียนหนังสือขายผ่านอินเตอร์เนตได้ด้วย ข้อดีของมันนั้นคือไม่ต้องลงทุนในการตีพิมพ์เป็นรูปเล่ม รวมทั้งไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็สามาถหาเงินผ่านการเขียน E-Book ขายได้ ขอแค่คุณมีความรู้ในด้านนั้นจริงๆ
ebook-tablet
หลักการในการเขียน E-Book ขายนั้นจริงๆแล้วก็คล้ายๆกับการเขียนหนังสือปกติเลยครับ เพียงแต่ที่ที่เราจะนำหนังสือของเราไปขายนั้นเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง โดยหลังจากที่เราเขียนหนังสือของเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะสามารถนำหนังสือไปขายได้ที่ตลาดฝากขาย Ebook ต่างๆตามเว็บไซต์ได้เลย โดยอาจจะมีการรอตรวจสอบจากทางเว็บก่อนเป็นเวลา 1-3 วัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่า E-Book เล่มนี้ไม่ได้เกิดจากการคัดลอกมาจากที่อื่น จากนั้นเว็บไซต์ก็จะเริ่มวางขายหนังสือของเราให้ผู้อ่านเข้ามาเลือกซื้อเลือกช็อปกันครับ
แล้วจะไม่โดน Copy ไปแจก หรือ ขายต่อ ? ตรงจุดนี้ทำได้แค่หวังครับ เพราะว่าถ้าเรามองจากหนังสือจริงๆ ก็มีการถ่ายเอกสาร รวมถึงยืนอ่านทั้งๆที่ไม่ซื้อเลยจริงไหมครับ ? เพราะฉะนั้นก็หวังว่าผู้ที่ซื้อ Ebook ของเราไปจะไม่ไปทำจำหน่ายจ่ายแจกต่อครับ
ในเรื่องรายได้ที่เกิดขึ้นในการขาย E-Book นั้นขึ้นอยู่กับราคาที่เรากำหนดให้หนังสือ และอาจจะมีการหักส่วนแบ่งไปบ้างจากเว็บไซต์ ขึ้นอยู่กับแต่ละเว็บไซต์นะครับ รวมถึงเรื่องของภาษีด้วยที่จำเป็นต้องจ่าย แต่หากว่าเราทำการประชาสัมพันธ์และโปรโมทดีๆแล้ว ถือว่าเป็นรายได้ระยะยาวที่จะเข้ามาเรื่อยๆเลยครับ
อีกเรื่องที่ผมอยากฝากคือ สำหรับ Ebook นั้นนอกจากเนื้อหาที่สำคัญมาเป็นอันดับ 1 แล้ว ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือเรื่องของหน้าปก เพราะ Ebook นั้นผู้อ่านไม่สามารถเปิดอ่านได้เหมือนกับหนังสือจริงๆ ถึงอาจจะมีการโชว์ตัวอย่างบทความในหนังสือให้ดูแล้วก็ไม่เทียบเท่ากับหนังสือจริงๆครับ ฉะนั้นอย่าได้ละเลยเรื่องของการออกแบบหน้าปกเป็นอันขาด โดยการออกแบบสามารถทำได้เอง หรือจ้างผู้ที่มีความสามารถในการออกแบบให้ก็ได้ครับ
เว็บไซต์ตลาด E-Book : 
9.ออกแบบเสื้อ Teespring
สำหรับอาชีพหรืองานสุดท้ายนี้เป็นเรื่องของการออกแบบเลยครับผม สำหรับใครที่มีความสามารถในการออกแบบ อาชีพนี้สามารถสร้างรายได้ให้แน่นอน แต่อย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความสามารถและ ดีไซน์ในการออกแบบ ว่าสวยและตรงกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ครับ
77777ogo
กล่าวถึง Teespring ก่อน Teespring เป็นบริษัทแนวระดมทุน โดยให้คุณออกแบบลายเสื้อยืดที่คุณคิดไปลงไว้กับทางเว็บไซต์ของTeespring จากนั้นถ้ามีคนมาซื้อเสื้อได้ถึงขั้นต่ำแล้วทาง Teespring ก็จะพิมพ์และส่งให้เอง ซึ่งผู้ที่ออกแบบก็ไม่มีค่าใช้จ่ายและถ้าหากว่าไม่ถึงเป้าทาง Teespring ก็ไม่ต้องผลิตเสื้อออกมา ดังนั้นเลยเป็นโมเดลธุรกิจที่ค่อนข้างจะ Win-Win ไม่มีใครอยากได้ก็ไม่ผลิต มีคนอยากได้ก็ผลิตตามนั้นครับ แต่คนออกแบบอาจจะเศร้าที่ออกแบบฟรี เอิ๊กๆ


Image result for ตัวอย่างหนังใหม่